ความคิดที่จะสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นจากตลาดแบบเดิมๆ ทำให้ จางจื้อเฉิง เด็กหนุ่มผู้ซึ่งเต็มไปด้วยไอเดียอันบรรเจิดเริ่มลงมือทำอะไรบางอย่าง…
บทนำ
ความคิดที่จะสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นจากตลาดแบบเดิมๆ ทำให้ จางจื้อเฉิง เด็กหนุ่มผู้ซึ่งเต็มไปด้วยไอเดียอันบรรเจิดเริ่มลงมือทำอะไรบางอย่าง ครอบครัวของเขาติดตามฝูงผึ้งและย้ายรังผึงจากฉางฮัวมาที่เหมียวลี่ เพื่อค้นหาสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงผึ้ง ด้วยสภาพแวดล้อมที่ดี มีลำคลองใสสะอาด อากาศปลอดโปร่ง ไร้มลภาวะ อีกทั้งล้อมรอบด้วยป่าธรรมชาติ จึงเป็นที่มาของเรื่องราวคนสามเจเนอเรชั่นที่อาศัยอยู่กับดอกไม้และน้ำผึ้งนั่นเอง
แผนผังของสถานที่นี้มีรายละเอียดค่อนข้างมาก ทั้งโซนพาชมสวนบรรยายโดยไกด์ ห้องน้ำ พื้นที่กิจกรรมDIYสำหรับทำขี้ผึ้ง ป้ายต่างๆ งานเพ้นท์กระจก ฯลฯ ล้วนแล้วแต่จงใจใช้สีสร้างสรรค์อย่างแยบยล โดยหลักๆ แล้วจะเป็นสีเหลืองและสีดำ ซึ่งเป็นสีของผึ้ง ควบคู่ไปกับศิลปะการจัดวางรังผึ้ง ทำให้สวยสะดุดตาไม่เหมือนใคร จนใครๆก็อดใจไม่ไหวที่จะมาเยี่ยมชม
เกษตรกรเลี้ยงผึ้ง จางจื้อเฉิง กล่าวว่าเพื่อที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลง เขาจึงลดรังผึ้งให้เหลือน้อยกว่าห้าร้อยรัง เพื่อให้ดูแลทั่วถึงและคอยระมัดระวังคุณภาพต่างๆ บวกกับการบริหารจัดการอย่างขยันขันแข็งเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการผลิตน้ำผึ้งคุณภาพสูง ดังนั้นในปีพ.ศ. 2556 ฟาร์มแห่งนี้จึงได้รับรางวัลหนึ่งในสิบสุดยอดเทพแห่งกสิกรรมซินหนง
การเปลี่ยนแปลงนั้นเริ่มต้นจากการย้ายรังผึ้ง โดยเขาย้ายไปถึงประมาณ 6 ครั้งในหนึ่งปี เพื่อหาสถานที่ที่ปราศจากมลพิษทางน้ำและทำให้มั่นใจว่าฝูงผึ้งอยู่ท่ามกลางดอกไม้มากมายที่ไม่ถูกปนเปื้อนด้วยยาฆ่าแมลง เขาพูดติดตลกว่า สิ่งนี้เหนื่อยกว่าการย้ายถิ่นฐานของมนุษย์อีก รายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่คนส่วนใหญ่ไม่ตระหนักเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญในการผลิตน้ำผึ้งดีคุณภาพสูงของสวนผึ้ง HoneyHome Apiary
จุดเด่นทางการท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม
ผึ้ง
จางเหลียงฮวน คุณปู่ของ จางจื้อเฉิง ชาวไต้หวันกลุ่มแรกที่เรียนรู้การเก็บนมผึ้งจากชาวญี่ปุ่นเมื่อพ.ศ. 2508 ต่อมาคุณปู่ของเขาได้ส่งต่อธุรกิจนี้ให้กับพ่อของเขา ถึงตอนนี้เขาก็รับหน้าที่ปกป้องนิเวศวิทยาของผึ้งโดยให้คำมั่นว่าจะสร้างความสมดุลระหว่างผู้คนกับผืนแผ่นดินบนสวนแห่งนี้
ที่นี่เปรียบเสมือนห้องเรียนขนาดใหญ่สำหรับคอร์ส “คนเลี้ยงผึ้งใน 1 วัน” ซึ่งผู้เข้าชมทุกท่านสามารถลิ้มรสน้ำผึ้ง ฟังคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ และสัมผัสใกล้ชิดกับเหล่าผึ้งได้ แถมยังได้ลองเค้กน้ำผึ้งที่ทำจากน้ำผึ้งลำไยคุณภาพสูง นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้และเข้าใจเรื่องราวเกี่ยวกับผึ้งมากขึ้นด้วย เพื่อช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อม และปกป้องธรรมชาติของเราไว้ให้ยั่งยืน
หลังจากฟังการบรรยายของไกด์แล้ว เหล่านักท่องเที่ยวก็จะเริ่มต้นกิจกรรมต่างๆ ทั้งการเก็บน้ำผึ้งโดยสวมหมวกที่มีตาข่ายรอบหัว สร้างสรรค์ผ้าบาติกจากน้ำผึ้ง หรือทาน้ำผึ้งบนขนมปังปิ้ง หากสนใจขั้นตอนการทำนมผึ้ง น้ำผึ้ง เกสรดอกไม้ และโปรโพลิส สามารถเรียนรู้จากกิจกรรมต่างๆได้ และเมื่อคุณได้มีโอกาสกัดขนมปังที่ทาน้ำผึ้งจากฝีมือของตัวเองแล้วละก็ รับรองว่าคุณจะต้องรู้สึกซาบซึ้งถึงความเหนื่อยยากของการเป็นคนเลี้ยงผึ้งอย่างแน่นอน
