คำแนะนำสถานที่
เริ่มแรก “ฟาร์มเพื่อการพักผ่อนจางหยวนเซ็นจูรี” เป็นฟาร์มปศุสัตว์ที่เลี้ยงแกะและผลิตนมแพะ จนกระทั่ง 10 กว่าปีก่อน เริ่มเปลี่ยนเป็นฟาร์มเพื่อการพักผ่อนและท่องเที่ยว ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ปลูกมะละกอ สวนมะละกอใช้วิธีปลูกแบบปลอดสารพิษโดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ทุกวันนี้ก็ยังเห็นลูกแกะตัวน้อยน่ารักๆ ในฟาร์ม เรียกความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้เยอะเลยทีเดียว
หลี่จือหม่าน พนักงานต้อนรับของฟาร์มที่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงในครอบครัวครั้งใหญ่เมื่อสามีของเธอเสียชีวิตเนื่องจากความเจ็บป่วย เธอจำเป็นต้องแบกรับภาระนี้ไปโดยปริยาย ช่วงชีวิตที่ปัญหารุมเร้า รวมถึงการดูแลลูกสาวของเธอที่มีปัญหาอาหารไม่ย่อยตั้งแต่เด็ก หลี่จือหม่านพยายามทำน้ำเอนไซม์มะละกอด้วยเอง โดยเริ่มจากการปลูกมะละกอในไร่ เดิมที มีต้นมะละกอมากกว่า 100 ต้นที่ปลูกในสวนแห่งนี้ แต่ปัจจุบันมีประมาณ 500 ถึง 600 ต้นแล้ว
ปัจจุบัน ต้นมะละกอมากกว่า 90% ที่ปลูกใน “ฟาร์มเพื่อการพักผ่อนจางหยวนเซ็นจูรี่” เป็นพันธุ์ “เรดเลดี้” มะละกอเหล่านี้ใช้ทำเอนไซม์มะละกอ ดังนั้น จึงเลือกมะละกอพันธุ์ “เรดเลดี้” เนื้อแข็งมาปลูก สวนแห่งนี้เต็มไปด้วยมะละกอเขียวลูกใหญ่และผลไม้มากมาย ช่วงเวลานี้ เราไม่สามารถรอให้มะละกอเปลี่ยนเป็นสีแดงก่อนแลเวค่อยเก็บเกี่ยว การเก็บเกี่ยวต้องเก็บก่อนสุก เพราะเอนไซม์มะละกอในมะละกอดิบมีมากกว่ามะละกอสุกถึง 2 เท่า เมื่อมะละกอสุกมากขึ้น เอนไซม์มะละกอก็จะลดลงด้วย .
จุดเด่นทางการท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม
ผลไม้
“ฟาร์มเพื่อการพักผ่อน จางหยวนเซ็นจูรี” เป็นหนึ่งในฟาร์มไม่กี่แห่งที่ไม่เก็บค่าเข้าชม โรงเลี้ยงแกะที่เคยเลี้ยงแกะในฟาร์ม ปัจจุบันกลายเป็นห้องเรียนบรรยายให้ความรู้ นอกจากฟังเจ้าของฟาร์มเล่าเรื่องราวของฟาร์มแล้ว คุณยังสามารถทำเอนไซม์มะละกอดิบด้วยตัวเอง ธูปหอมไล่ยุงประดิษฐ์ และอื่นๆ
ฟาร์มได้เปิดตัว “ค่ายประสบการณ์เกษตรหนึ่งวัน” ซึ่งเป็นกิจกรรมเกี่ยวกับผักและผลไม้ตามฤดูกาล พ่อแม่ลูกช่วยกันขุดมันเทศและปลูกข้าวโพดในทุ่งกว้าง ลิ้มรสอาหารที่ทำจากผักปลอดสารพิษในฟาร์ม ไปจนถึงภาคภูมิใจในความสำเร็จที่ได้เก็บเกี่ยวผักและผลไม้ด้วยตนเอง
