ฟาร์มรักบ้านเกิด ดอกเข็มทองบานสะพรั่ง ตกในภวังค์กลิ่นหอมของอาหารบ้านป่า
21. ฟาร์มรักบ้านเกิด(故鄉休閒農園)

ป้ายข้างทางของถนนโล่งๆเป็นสไตล์ของบ้านคนบนดอย ส่วนหน้าประตูบ้านก็มีพืชไร่ที่เก็บเกี่ยวไว้ในวันนั้นสำหรับขาย เสียงคนเดินเข้าเดินออก ทั้งสั่งอาหาร…

คำแนะนำสถานที่

ป้ายข้างทางของถนนโล่งๆเป็นสไตล์ของบ้านคนบนดอย ส่วนหน้าประตูบ้านก็มีพืชไร่ที่เก็บเกี่ยวไว้ในวันนั้นสำหรับขาย เสียงคนเดินเข้าเดินออก ทั้งสั่งอาหาร ทั้งทำอาหาร เป็นภาพที่มีชีวิตชีวาจริงๆ

ฟาร์มรักบ้านเกิดอยู่ห่างจากป้ายรถเมล์หยางหมิงซาน จู๋จือหู ไปประมาณ 200 เมตร เป็นที่ที่ชาวบ้านลงหลักปักฐานอยู่มาหลายชั่วอายุคน บรรพบุรุษของพวกเขาส่วนใหญ่ปลูกข้าวเผิงไหล หรือข้าวญี่ปุ่น และกะหล่ำปลีอัลไพน์ หรือกะหล่ำปลีภูเขา  ไป๋ฮุ่ยหมิน เล่าว่าในอดีตพ่อของเธอเป็นผู้ก่อตั้งโรงงานผลิตและขายดอกคาลล่าลิลลี่ และตั้งแต่นั้นมาก็ได้สนับสนุนการพัฒนาดอกคาลล่าลิลลี่ในท้องถิ่นมาโดยตลอด

故鄉DIY食趣多。

นอกจากอาหารสไตล์บ้านไร่แบบเรียบง่ายแล้ว ยังมีทุ่งดอกเข็มทองขนาดใหญ่ราวกับทะเลที่หาชมยากในเทือกเขาหยางหมิงแห่งนี้อีกด้วย หลังจากรับประทานอาหารอิ่มแล้ว คุณสามารถเดินขึ้นภูเขาเพื่อไปยังทุ่งดอกไม้ชมความงามของดอกไฮเดรนเยียและดอกเข็มทองที่พลิ้วไหวตามแรงลมแกว่งไปมาอยู่ในทุ่งนา ไป่ ฮุ่ยหมิน พูดเล่นว่า “ทุกคนในครอบครัวมีหน้าที่ พ่อของฉันปลูกดอกไม้ น้องชายของฉันทำผัก ส่วนฉันก็แค่พูดคุยเท่านั้นเอง”

ความพิเศษของฟาร์มรักบ้านเกิดก็คือดอกเข็มทอง ไป๋ฮุ่ยหมิ่น กล่าวว่าเพราะว่าน้ำในทะเลสาบจู๋จือ ลดลงเรื่อยๆและไม่เพียงพอที่จะรองรับทุ่งดอกคาลล่าได้อีก บวกกับชาวบ้านจำนวนมากหันมาปลูกดอกไฮเดรนเยียกันมากขึ้น ทำให้เธอต้องคิดต่าง ประจวบเหมาะกับที่เธอคิดขึ้นมาได้ว่าเคยเห็นดอกเข็มทองอยู่ในทุ่งนาเมื่อ20 กว่าปีก่อน ซึ่งสมัยก่อนเราจะเห็นดอกเข็มทองเฉพาะในร้านอาหาร ไอเดียนี้ก็เลยสานต่อให้นักท่องเที่ยวได้ มีโอกาสชมความงามของดอกไม้ได้อย่างยาวนานมากที่สุด  ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมที่นี่จึงเป็นจุดหมายปลายทางใหม่สำหรับผู้แสวงหาการพักผ่อนหย่อนใจจริงๆ

จุดเด่นทางการท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม

ดอกไม้

ทุ่งดอกเข็มทองบนพื้นที่กว่า 3.3 ไร่ ไม่ได้เปิดให้ชมดอกไม้สดเท่านั้น แต่ยังทำเป็นแพ็คดอกไม้แห้งขายด้วย และมีคอร์ส DIY ให้สนุกสนานด้วย เช่น สบู่ที่ทำจากดอกเข็มทองแห้งซึ่งเหมาะสำหรับผิวบอบบาง ส่วนเรื่องอาหารนั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะเราเห็นดอกเข็มทองในอาหารอยู่บ่อยๆ แต่สำหรับไป๋ฮุ่ยหมิ่นก็มีไอเดียใหม่โดยนำดอกเข็มทองไปผัดกับน้ำมันงาและขิงซอยช่วยเพิ่มรสชาติและความอบอุ่นได้ดีทีเดียว

ที่นี่มีทั้งดอกคาลล่าสีขาว  ซี่งส่วนใหญ่เป็นพันธุ์มาตรฐาน และดอกคาลล่าสีเขียวด้วย เมื่อไป๋ฮุ่ยหมิ่นซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่สี่เข้าดูแลฟาร์มแห่งนี้ เธอได้ขยายการปลูกโดยเพิ่มดอกไฮเดรนเยีย ดอกเข็มสีทองไปจนถึงดอกซากุระ นอกจากนี้ ยังให้บริการจัดเลี้ยงโดยประดับประดาอาหารจานต่างๆด้วยดอกไม้จากในสวนของเธอ รวมไปถึงการจัดกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับผลิตภัณฑ์ทำมือ เช่น ซาลาเปาแฮนด์เมค สบู่ดอกไม้แห้ง หินหอม และอื่นๆอีกมากมาย

สวนดอกเข็มทองเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม โดยมีค่าธรรมเนียม 100 ดอลลาร์ไต้หวันต่อคน ดอกไม้ต่างๆจะบานโดยมีฤดูกาล ดังนี้ ดอกคาลล่าบานในช่วงเดือนมีนาคมถึงปลายเดือนพฤษภาคม ดอกไฮเดรนเยีย ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม และดอกเข็มทองซึ่งจะบานในเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน

ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว

actor-img00Created with Sketch.

หมายเลขโทรศัพท์

+886-228-615-736

ที่อยู่

112, Taipei City, Beitou District

Web

ข้อมูลการเดินทาง

Scroll to Top