ฟาร์มหมิงหยางผู มีหุบเขาส่วนตัว และเป็นที่รู้จักในนามของชาวเน็ตว่า “ดินแดนดอกไม้ในฝัน”
คำแนะนำสถานที่
เมื่อก้าวเท้าผ่านสวนเล็กๆที่รังสรรขึ้นอย่างประณีต คุณจะได้รับการต้อนรับด้วยกลิ่นหอมอย่างอบอุ่นของอบเชย และเมื่อออกไปยืนด้านนอก คุณจะเห็นวิวจากด้านบนสุดของหุบเขา สองข้างทางเดินที่ประดับประดาไปด้วยดอกไม้นานาชนิด มีทั้งสระน้ำ ชิงช้า รูปภาพ และปะติมากรรมรูปปั้นหินต่างๆ อย่างเช่นที่รู้จักกันดีในโลกโซเชียลก็คือในชื่อ “ความงามที่ซ่อนอยู่” นอกจากนี้ยังสามารถจิบกาแฟ และชิมซินนามอนโรลที่ทำสดใหม่ ดั่งภูเขาที่กลิ้งไปมาบนสรวงสวรรค์
ชื่อ “หมิงหยางผู” มีที่มาที่ไปแปลก ๆ ว่ากันว่า ครั้งหนึ่งในพื้นที่ที่มีลมแรงและหมอกลงจัด ขณะนั้นหญิงชราผู้หลงทางได้ร้องขึ้นมาว่า “ฉันกำลังเดินอยู่ดีๆ จู่ๆพอเงยหน้าขึ้นมา ทุกคนก็หายไปไหนหมด?” หลังจากที่เจ้าของ ไร่ได้ยินเรื่องราวนี้ก็คิดในใจว่า สมมติว่าเราจับดวงอาทิตย์ได้จริง คงจะดีไม่น้อย ไอเดียนี้จึงเป็นที่มาของชื่อ หมิงหยาง ซึ่งแปลว่าพระอาทิตย์อันเจิดจ้า ส่วนผู ซึ่งแปลว่า คลาน หมายถึง สายหมอกที่คืบคลานผ่านก้อนเมฆอันหนาทึบ.
ฟาร์มนี้ได้ถูกตกทอดมาสู่เจ้าของรุ่นใหม่ หวังยุ่นซู โดยมีพ่อแม่คอยให้การสนับสนุนตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พ่อของเธอที่อยู่ในธุรกิจก่อสร้าง ซึ่งไม่เพียงรับผิดชอบในการปลูกดอกไม้และต้นไม้เท่านั้น . ยังดูแลไปถึงงานแกะสลักต่างๆ เช่นงานสลักหินศิลปะที่ซ่อนอยู่ในทะเลดอกไม้ก็เป็นหนึ่งในผลงานของเขาเช่นกันซึ่งเมื่อถึงฤดูที่ดอกไม้เบ่งบาน สระน้ำก็จะถูกเนรมิตให้เป็นทะเลดอกไม้ในทันที
จุดเด่นทางการท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม
ดอกไม้
การเก็บดอกคาลล่าลิลลี่ในสวนจะสลับหมุนเวียนกับการปลูกมันเทศหรือฟักทอง จึงให้รสชาติที่สดและหวานอร่อยเป็นพิเศษ ในขณะที่ฤดูร้อนจะมีการตัดดอกบัวที่บานในบ่อน้ำทั้งสามเพื่อนำไปต้มได้ชาที่มีกลิ่นหอมละมุน หลังจากนั้นนำเจลาตินจากกลีบบัวมาทาบนมือ ให้สัมผัสที่ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมซาบรวดเร็ว สาวๆ หลายคนที่สนใจสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมดูแลผิวหลังจากถ่ายรูปและดื่มชาเสร็จแล้ว
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเปิดประสบการณ์ DIY อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำพวงกุญแจไม้การบูรรูปดอกไม้ต่างๆ ภาพพิมพ์แกะไม้คาลลา(calla) แก้วไฮเดรนเยีย ที่รองแก้วเซรามิก และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ คุณยังสามารถซื้อไม้แกะสลักด้วยมือของเจ้าของเป็นรูปดอกคาลล่าลิลลี่อีกด้วย
ค่าเข้าชมสามารถแลกเป็นค่าใช้จ่ายในฟาร์มได้ นอกจากดอกคาลล่าลิลลี่และดอกไฮเดรนเยียแล้ว ยังมีดอกอีเจียน ดอกบัว และดอกขิงป่าอีกด้วย ส่วนฤดูกาลของดอกไม้ต่างๆมีดังนี้ ฤดูดอกคาลล่าลิลลี่เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงปลายเดือนพฤษภาคม ดอกไฮเดรนเยีย ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม ดอกบัวและดอกขิงป่าตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม (ชาตามฤดูกาลก็มีขายในช่วงเวลานี้ด้วย) แต่ช่วงออกดอกครั้งสุดท้ายจะมีจนถึงเดือนตุลาคมเท่านั้น
ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว
หมายเลขโทรศัพท์
+886-935-913-239
ที่อยู่
Zhuzihu Road (use google map to search Mingtangpu Leisure Farm, Beitou District, Taipei City 112)
