“บ้านอาหารทะเลฉางอิ๋ง” ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านซานเหลียววัน ในเขตเป่ยเหมิน มีภูมิทัศน์ชนบทแบบเรียบง่าย ตลอดจนปลาและกุ้งของตัวเองที่เพาะเลี้ยงโดยใช้น้ำทะเลบริสุทธิ์ และเนื่องจากฝีมือการปรุงอาหารที่ดึงรสชาติดั้งเดิมของวัตถุดิบคุณภาพสูงปรากฏออกมา จึงได้รับเลือกให้อยู่ในรายชื่อรางวัลมิชลิน บิบ กรูมองด์ ในปี พ.ศ. 2565 ซึ่งควรค่าแก่การลองสําหรับคนรักอาหาร
คำแนะนำสถานที่
เพื่อที่จะ “เลี้ยงปลาให้ดี” ไม่ใช่ว่าคิดแต่ “เลี้ยงปลาให้รอด” บ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทั่วไปจะเลี้ยงปลาประมาณ 11 เดือนต่อปี แต่บ้านอาหารทะเลฉางอิ๋งจะเลี้ยงปลาเป็นเวลา 5 หรือ 6 เดือนเท่านั้น หลังจากช้อนปลาขึ้นมาแล้ว ก็เริ่ม “การบำรุงน้ำ” โดยการใส่โพรไบโอติกส์และจุลินทรีย์เพื่อแยกสารมลพิษที่ตกค้าง หลังจากระบายน้ำแล้วจึงต่อด้วย “การบำรุงดิน” โดยการนำบ่อไปฆ่าเชื้อด้วยแสงอาทิตย์และตากแดดเป็นเวลา 2 เดือน หลังจากฆ่าเชื้อเสร็จแล้วให้เติมน้ำทะเลเข้าบ่ออีกครั้ง รออีก 2 เดือนเพื่อ “บำรุงน้ำ” จึงจะปล่อยลูกปลาลงบ่อได้
“บ้านอาหารทะเลฉางอิ๋ง” คุณปู่หวงปี้เถียน ได้วิจัยและพัฒนาไส้กรอกปลานวลจันทร์ทะเล ปลานวลจันทร์ทะเลตากแห้งข้ามคืน เยลลี่มันสำปะหลังผสมน้ำตาลทรายแดงและส่วนผสมอื่น ๆ คุณหวงกั๋วเหลียง น้องชายรุ่นที่สองได้ก่อตั้ง “บริษัท ซี่ว์ไห่อานซู่ผลิตภัณฑ์ประมง จำกัด” เพื่อเลี้ยงปลาอย่างจริงจัง จากนั้นก็บริหารจัดการต่อโดยคุณหวงอวิ๋นชิง พี่สาวรุ่นที่สองและเข้าร่วม “เถียนมามา” (แบรนด์ที่ดำเนินการโดยกลุ่มแม่บ้านชนบทในไต้หวันเพื่อสร้างรายได้เสริม) ซึ่งค่อย ๆ กลายเป็นที่รู้จักกันดีด้วยอาหารรสเลิศอันโดดเด่น ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาคุณเซี่ยจาซิน รุ่นที่สามซึ่งมีอายุเพียง 20 ต้น ๆ ก็ได้ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณะ สองแม่ลูกมักมีใบหน้ายิ้มแย้มอย่างมีมิตรไมตรี เป็นที่ชื่นชมอย่างมากในหมู่ประชาชน
จุดเด่นทางการท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม
การเลี้ยงปลา
เมนูซิกเนเจอร์อันดับแรก คือ ไส้กรอกปลานวลจันทร์ทะเล หลังจากบดและทุบเนื้อส่วนหลังของปลาที่มีก้างอยู่มากด้วยค้อนอย่างละเอียดแล้ว ก็นำมาผสมกับหมูบด
ลำดับต่อไป คือ “เนื้อปลานวลจันทร์ทะเล” นี่คือส่วนที่มักได้รับแสงแดดซึ่งเป็นส่วนที่อยู่เหนือหลังปลา มีสีเข้มและเนื้อเหนียวหนึบ โดยทั่วไปจะทอดแบบน้ำมันท่วม แต่ “บ้านอาหารทะเลฉางอิ๋ง” กลับทอดโดยใช้น้ำมันปริมาณน้อยอย่างช้า ๆ ด้วยไฟอ่อน ๆ ซึ่งมีกลิ่นหอมและรสหวาน
เยลลี่มันสำปะหลังผสมน้ำตาลทรายแดงยิ่งเป็นซิกเนเจอร์ที่ไม่มีใครเทียบได้ โดยเลือกใช้ผงมันเทศบด 100% ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ แล้วนำมาผัดกับน้ำตาลทรายขาวเบอร์ 2 และน้ำตาลทรายแดงด้วยไฟอ่อนอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 2 ชั่วโมงจนกระทั่งมีกลิ่นหอมฟุ้ง จึงเติมน้ำเพื่อเคี่ยวอีก 8 ชั่วโมง สุดท้ายจับคู่กับน้ำแข็งไสและน้ำตาลทรายแดง รสชาติเหนียวนุ่ม หวาน ๆ เย็น ๆ ในปาก ทำให้หลายคนตกหลุมรักเมนูนี้อย่างมาก
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ “เครื่องดื่มชูกำลัง” ได้รับความนิยมมากขึ้น ซึ่งใช้ก้างปลานวลจันทร์ทะเลจำนวน 250 กิโลกรัม และไก่ทั้งตัวจำนวน 8 ตัวมาต้มเอาหัวเชื้อออกมาเหมือนซุปไก่สกัด มีคอลลาเจนและให้รสหวานละมุนอร่อยเต็มคำ
