เมืองหยุนหลิน มี “กองทัพนักระบำมือแห่งอูหลงการ์เดนท์” ส่วนไถหนานก็มีร้านกาแฟอูหลงการ์เดนท์ที่มีชื่อเสียงไม่แพ้กัน ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จก็คือหลี่โจวเซียน ปรมาจารย์หุ่นกระบอก ซึ่งฝึกฝนศิลปะการต่อสู้และหลงใหลในกาแฟตั้งแต่ยังเยาว์วัย ด้วยการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากภรรยาของเขา เฉินเสี่ยวผิง ทำให้เขากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญ และไม่สามารถแยกอาชีพกับงานอดิเรกออกจากกันได้เลย
บทนำ
หลี่โจวเซียนเจ้าของไร่กาแฟนี้ ตกหลุมรักกาแฟเมื่อเขาอายุได้ 30 ปี ครั้งหนึ่งเขาดื่มจนเป็นโรคกระเพาะ และกรดไหลย้อน ความพยายามบวกกับขยันขันแข็งขึ้นลงภูเขาอย่างไม่ย่อท้อเพื่อให้แน่ใจว่าเกษตรกรมีทักษะและทำอย่างต่อเนื่อง จึงใช้เวลาฝึกฝนเพียงห้าปี สามารถเปิดร้านในปีพ.ศ.2551 สานฝันสำเร็จ
งานเทศกาลกาแฟตงซาน ในปีพ.ศ. 2553 เขากวาดรางวัลชนะเลิศในการแข่งขันไปถึง 3 รายการ ขณะที่เขากำลังยินดีกับชื่อเสียง ในเวลาต่อมาพืชผลทั้งหมดกลับถูกพายุถล่ม เหลือไว้เพียงหลังคาให้ดู
โชคดีที่ไม่มีทางออกอื่นใด ในฐานะกาแฟแชมป์เปี้ยนจึงดึงดูดลูกค้าในญี่ปุ่นและฮ่องกงได้ราคาดี ทำให้สต๊อกของเขาขายหมดได้ทันเวลา ช่วยต่อลมหายใจได้อีกครั้ง เขาเริ่มปรับปรุงวิธีการทำไร่กาแฟให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากขึ้น รวมทั้งเป็นมิตรกับโลกโดยใช้น้ำเอนไซม์ในการควบคุมโรคและแมลงศัตรูพืช หลี่โจวเซียนเปิดเผยว่าความลับของกาแฟคุณภาพที่ดีนั้นอยู่ที่การพรมน้ำตอนกลางคืนซึ่งจะเพิ่มความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างกลางวันและกลางคืนทำให้เปลี่ยนความขมฝาดของกาแฟให้เหมาะกับรสชาติที่คนไต้หวันนิยมดื่ม”
จุดเด่นทางการท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม
กาแฟ
ส่วน เฉินเสี่ยวผิงก็ไม่ได้นิ่งเฉย เธอได้เปิดตัวอาหารและเครื่องดื่มเมนูพิเศษ เช่น ไอศกรีมทองคำดำและเยลลี่กาแฟเพื่อให้เข้ากับกาแฟดำ สร้างผลกำไรสูงถึง 100% ส่วนโอเด้งทอดที่เป็นแท่งแป้งทอดกรอบม้วนไส้ปลาหมึกเนื้อเด้งดึ๋งก็เป็นเมนูซิกเนเจอร์ที่พลาดไม่ได้เช่นกัน
กาแฟกลับมา ลูกค้ากลับมา และการแสดงหุ่นกระบอกก็กลับมา สองสามีภรรยาทาสีเคาน์เตอร์บาร์เป็นเวทีหุ่นกระบอกอย่างแยบยล พร้อมจิบกาแฟดีๆ สักถ้วยอย่างเพลิดเพลิน ให้ทุกคนได้สามารถสัมผัสการเกษตรแบบดั้งเดิมและยังจัดทัวร์เกษตรที่มีความพิเศษ ในขณะเดียวกันยืนหยัดในการสืบทอดวัฒนธรรม คงความดั้งเดิม เสริมความยั่งยืน คือสิ่งที่ได้จากไร่กาแฟแห่งนี้