

เกาสงเป็นพื้นที่หลักในการผลิตชาเขาไต้หวัน โดยพื้นที่ซินฟาลี่เขตลิ่วกุ้ยเป็นที่ตั้งของโรงงานชาฉินหยวน เคยเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมชา ในช่วงรุ่งเรืองเคยมีโรงงานชามากถึง 20 แห่ง ปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 7 แห่งเท่านั้น อาหยง (สวีเซิ่งหยาง) เล่าว่า เขาเติบโตมาในแวดวงของชา ตั้งแต่เด็กก็คลุกคลีอยู่กับไร่และโรงงานชา แม้จะย้ายไปเรียนหนังสือนอกพื้นที่ แต่เมื่อถึงฤดูเก็บชา เขาก็จะกลับมาช่วยงานที่บ้านเสมอ ต่อมา เมื่อได้รับคำแนะนำจากบิดา เขาจึงตัดสินใจลาออกจากงาน และกลับบ้านเกิดเพื่อสืบทอดกิจการของครอบครัวอย่างเต็มตัว พร้อมรักษาต่อยอดเทคนิคการปลูกและผลิตชาที่ได้รับการถ่ายทอดจากปู่ เพื่อให้กลิ่นอายและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของชาเขาไต้หวันยังคงหอมกรุ่นต่อไป
คำแนะนำสถานที่
เมื่อพูดถึงกิจการชาเขา อาหยงได้อธิบายไว้ได้อย่างลึกซึ้งว่า “รุ่นแรกสร้างพื้นฐาน รุ่นที่สองสืบทอด รุ่นที่สามสร้างสรรค์สิ่งใหม่” โรงงานชาซินหยวนมีจุดเด่นอยู่ที่ชาเขาพันธุ์พื้นถิ่นของลิ่วกุ้ย ซึ่งปลูกแบบธรรมชาติในลักษณะปล่อยให้เติบโตตามแนวเขา ต้นชาจะมีใบหนา อุดมไปด้วยเพกทินและสารคาเทชินในระดับสูง ส่งผลให้ชามีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ น้ำชาจึงใสสะอาด ดื่มแล้วหวานละมุนติดลิ้น แถมยังชงซ้ำได้หลายครั้ง ด้วยคุณภาพเช่นนี้จึงสะสมฐานลูกค้าประจำจำนวนไม่น้อยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา


ไร่ชาปลูกโดยใช้วิธีเกษตรธรรมชาติ ไม่ใช้ปุ๋ยเคมีหรือสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ต้นชาจะเติบโตอย่างอิสระในสภาพแวดล้อมที่มีร่มเงาบางส่วน และอยู่ร่วมกับพืชชนิดอื่น ๆ อย่างต้นบ๊วยและเฟิร์นอย่างเป็นธรรมชาติ เนื่องจากปริมาณผลผลิตมีจำกัดและการเก็บเกี่ยวต้องใช้แรงงานมาก ใบชาจึงต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดจากผู้ชำนาญในการผลิตชา อาหยงปฏิบัติตามกระบวนการทำชาอย่างเคร่งครัด ตั้งแต่การเก็บใบชาด้วยมือ การบ่มใบชา การนวด การอบแห้ง เพื่อให้กลิ่นหอมละมุนจากป่าเขาได้แผ่กระจายออกมาอย่างเต็มที่ เขานำใบชาไปแปรรูปเป็นชาเขาพันธุ์พื้นถิ่น ชาขาว และชาหมัก(ชาดำ) ซึ่งเมื่อดื่มจะรู้สึกถึงสัมผัสที่นุ่มลื่น พร้อมกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกไม้และผลไม้
จุดเด่นทางการท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม
ชา
ไอศกรีมชาเขียวหอมเข้มข้น รสสัมผัสที่แฝงความฝาดเล็กน้อยสร้างความประทับใจไม่รู้ลืม ส่วนไอศกรีมชาดำ ผสมผสานนมสดกับชาดำจนได้รสชาติคล้ายชานม จึงกลายเป็นรสโปรดของเด็ก ๆ อีกหนึ่งไฮไลต์คือ “ไข่ต้มชา” สูตรเฉพาะ ที่คิดค้นขึ้นโดยใช้ชาดำซึ่งชงจากซอสถั่วเหลืองและชาเขา นำไปตุ๋นและหมักนานถึงสามวันสามคืน ทำให้ไข่ขาวเนื้อนุ่มไข่แดงเนียนละมุน เมื่อนำมาทานคู่กับชาเขาแบบชงเย็นรสละมุน กลายเป็นชุดน้ำชายามบ่ายที่ลูกค้าต่างชื่นชมกันไม่หยุดปาก
นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสประสบการณ์นวดใบชาด้วยตนเอง เรียนรู้กระบวนการแปรรูปใบชาสดไปจนกลายเป็นน้ำชา พร้อมทั้งเข้าร่วมกิจกรรมชงชาและชิมชาในบรรยากาศของพิธีชงชาแบบดั้งเดิม เพื่อสัมผัสรสชาติและเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของโลกชาเขาอย่างลึกซึ้ง นอกจากนี้ อาหยงยังแสวงหาแนวทางการบริหารจัดการธุรกิจรูปแบบใหม่ โดยร่วมมือกับคนรุ่นใหม่ที่กลับบ้านเกิด เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมชาของลิ่วกุ้ยให้เติบโตต่อไป พร้อมตั้งเป้าว่าจะทำให้เสน่ห์ของชาเขาพันธุ์พื้นถิ่นของไต้หวันสืบทอดและงอกงามต่อเนื่องอย่างยั่งยืน