แฮปปี้ไมเนอร์
“เมื่อไหร่ที่ทำโดยไม่คาดหวัง สิ่งที่คาดหวังจะมาเอง” เจิ้ง ซูฮุ่ยกล่าว พ่อแม่บุญธรรมของเจิ้ง ซูฮุ่ย เลือกที่จะตั้งรกรากอยู่ ณ สถานที่นี้เมื่อ 20 กว่าปีก่อน ถึงแม้จะเป็นที่รกร้างห่างไกลความเจริญ…
คำแนะนำสถานที่
“เมื่อไหร่ที่ทำโดยไม่คาดหวัง สิ่งที่คาดหวังจะมาเอง” เจิ้ง ซูฮุ่ยกล่าว พ่อแม่บุญธรรมของเจิ้ง ซูฮุ่ย เลือกที่จะตั้งรกรากอยู่ ณ สถานที่นี้เมื่อ 20 กว่าปีก่อน ถึงแม้จะเป็นที่รกร้างห่างไกลความเจริญ แต่เมื่อที่ดินผืนนี้ได้รับการปรับปรุงพัฒนาให้ดีขึ้น ผู้คนจึงย้ายมาตั้งรกรากเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีและการมีสุขภาพแข็งแรง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
คุณยายชอบเข้าไปในสวน ที่เธอปลูกมะม่วงและต้นฝรั่งไว้มากมาย และยังทำแปลงผักขนาดใหญ่ ทำให้ครอบครัวต่างก็เรียกที่นี่ว่า แฮปปี้ฟาร์ม (Happy Farm) ของคุณยาย หลังจากที่คุณยายจากไปแล้ว เซี่ยผิงและเจิ้งซูฮุ่ย สองสามีภรรยาก็ตัดสินใจสานต่องานของยาย และยังนำพืชอื่นๆ ไม่ว่าจะ ชาออสเตรเลีย ตะไคร้ วอร์มวูด ดอกอัญชัน ดอกขิงป่า ผลโนนิ และพันธุ์ไม้อีกเกือบ 30 ชนิด เข้ามาในฟาร์ม ด้วยสายพันธุ์ที่หลากหลายทำให้มีการเก็บเกี่ยวต่างกันในแต่ละฤดูกาล ต่อมาได้มีการเปิดตัวกิจกรรม “ดอกไม้หอมด้วยรักและความสุข” เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสการทำฟาร์มแบบไม่เหมือนใครเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของฟาร์มแห่งนี้
เจิ้งซูฮุ่ยได้ออกแบบแผนการทัวร์ฟาร์มแบบให้นักท่องเที่ยวได้ใกล้ชิดกับดอกไม้และพืชต่างๆ ผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า ทั้งดู ดมกลิ่น สัมผัส เล่น และกินในคราวเดียว ทำให้ได้ปลดปล่อยความเครียดและความกังวลต่างๆจากการใช้ชีวิตเร่งรีบในปัจจุบันท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม ผู้คนได้รวมตัวกันเพื่อแบ่งปันความสุขและก่อให้เกิดสวนสมุนไพรหอมอย่างที่เราเห็นในทุกวันนี้
จุดเด่นทางการท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม
สมุนไพรและการย้อมสีธรรมชาติ
ดำเนินกิจการโฮมสเตย์หลังเกษียณ เพียรผลักดันทัวร์ท้องถิ่นสู่แถวหน้า
“เมื่อคิดย้อนกลับไป ไม่มีอะไรง่ายเลย” เจิ้ง ซูฮุ่ยกล่าวว่า เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมในปีพ.ศ. 2552 พายุไต้ฝุ่นได้พัดถล่มทางใต้ของไต้หวันอย่างหนัก ทำให้การก่อสร้างคฤหาสน์ประสบความสูญเสียครั้งใหญ่ พื้นที่เพาะปลูกเสียหายเกือบทั้งหมด จนต้องวางแผนปรับปรุงใหม่ทั้งหมด แต่ด้วยความมุมานะพากเพียรทำให้สามารถสร้างคฤหาสน์หลังใหญ่นี้เสร็จภายใน 2 ปี ในช่วงแรก มีแค่เพื่อนและลูกค้าที่มาเที่ยวจากคำบอกเล่าปากต่อปากเท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นคนที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง เซี่ยปิงพูดด้วยรอยยิ้มต่อไปว่า “แล้วปีแรกก็ผ่านไปอย่างสบายๆ”
เจิ้งซูฮุ่ยได้เยี่ยมชมและรวบรวมวัสดุในเวลาว่าง รวมถึงวางแผนเตรียมกิจกรรมสัมผัสประสบการณ์ที่มีชีวิตชีวา ทั้งตื่นตาตื่นใจกับระบบนิเวศวิทยาและธรรมชาติภายในฟาร์มแล้ว ยังมีกิจกรรม DIY หลายรูปแบบทั้งการทำน้ำส้มสายชูหมักจากผลไม้ แยมสีสันสวยงามและสร้างสรรค์ เครื่องดื่มชาสมุนไพร และนำสมุนไพรมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยเพื่อกันยุงและทำน้ำยาทำความสะอาด นอกจากนี้ยังมีคลาสเรียนพิมพ์ใบไม้ลงกระดาษที่สอนโดยอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ และปิดท้ายด้วยจิบชาสูตรพิเศษยามบ่ายซึ่งรับรองว่าทุกคนจะต้องมีความสุขอย่างแน่นอน