
สวนอ้ายยวี่ที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน เพาะปลูกอ้ายยวี่เพียงสายพันธุ์เดียวเท่านั้น
เฟิงเซิ่งอ้ายยวี่ที่ใต้ตีนเขาไท่ผิง ไร่เพาะปลูกอ้ายยวี่สายพันธุ์เดียวที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน
คำแนะนำสถานที่
ไช่อิงอิงเป็นผู้จัดการร้านเฟิงเซิ่งอ้ายยวี่ เธอเล่าว่า เมื่อประมาณปี ค.ศ. 1973 คุณปู่ของเธอได้เคลียร์ที่ดินราบขนาด 2.6 เฮกตาร์แห่งนี้ไว้เพื่อปลูกส้มโอและเลี้ยงไก่พื้นเมือง แต่วันหนึ่งพ่อของเธอได้บังเอิญมีโอกาสชิมวุ้นอ้ายยวี่ถ้วยหนึ่งที่ทำให้คุณพ่อประทับใจอย่างมาก เป็นอ้ายยวี่พันธุ์ “หงจิ่ว” ซึ่งเป็นสายพันธุ์ดั้งเดิมเดียวของไต้หวัน วุ้นอ้ายยวี่ถ้วยนั้นทำให้พ่อของเธอมีแรงบันดาลใจที่จะฟื้นฟูที่ดินแห่งนี้ขึ้นมาใหม่ หลังจากเข้าเรียนรู้ในหลักสูตรเกี่ยวกับอ้ายยวี่ เขาได้เดินทางไปสำรวจสวนอ้ายยวี่ทั่วทั้งไต้หวันและศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับสายพันธุ์ต่าง ๆ หลังจากเพาะปลูกเป็นเวลาสามปี บนที่ดินแห่งนี้ก็มีต้นอ้ายยวี่จำนวนกว่า 3,000 ต้น โดยใช้เสาปูนซีเมนต์เป็นที่ให้ต้นอ้ายยวี่ซึ่งเป็นไม้เลื้อยยึดเกาะเพื่อเจริญเติบโต และช่วยให้เก็บผลได้สะดวกยิ่งขึ้น

ต้นอ้ายยวี่นั้นสามารถแบ่งออกได้เป็นเพศผู้กับเพศเมีย และที่น่าอัศจรรย์ยิ่งกว่านั้นคือ การผสมเกสรของมันต้องอาศัยผึ้งอ้ายยวี่เท่านั้น โดยผึ้งชนิดนี้อาศัยอยู่เฉพาะในต้นอ้ายยวี่เพศผู้เท่านั้น เมื่อผึ้งนำพาเกสรเข้าไปในต้นอ้ายยวี่เพศเมีย จึงทำให้เกิดเป็นเมล็ดอ้ายยวี่ออกมา ในตอนนั้นคุณพ่อไช่มีความตั้งใจจะฟื้นฟูที่ดินของคุณปู่ และด้วยโชคชะตาก็ทำให้สามารถปลูกอ้ายยวี่พันธุ์หงจิ่วได้ ซึ่งเป็นพันธุ์ดั้งเดิมชนิดเดียวบนพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดในไต้หวัน จนลูกสาวทั้งสองคนที่เดิมทำงานอยู่ต่างถิ่นต้องกลับมาบ้านเพื่อช่วยงาน ทุกวันนี้สมาชิกในครอบครัวต่างทำงานกันอย่างแข็งขัน เพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนที่มาเยือนได้ลิ้มรสวุ้นอ้ายยวี่ถ้วยนั้น ที่เคยทำให้พ่อของเธอประทับใจไม่รู้ลืม
จุดเด่นทางการท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม
ผลไม้
เมื่อมาถึงสวนเฟิงเซิ่งอ้ายยวี่ สิ่งแรกที่จะได้เห็นก็คือพื้นที่ราบกว้างใหญ่ที่ปลูกต้นอ้ายยวี่เรียงรายอย่างเป็นระเบียบสุดลูกหูลูกตา ซึ่งต่างจากภาพจำเดิมของเราที่คิดว่าอ้ายยวี่เป็นไม้เลื้อย และต้องปีนขึ้นไปเก็บบนต้นไม้สูง ๆ แต่ไร่อ้ายยวี่ที่นี่นั้นกลับดูคล้ายกับไร่องุ่นในต่างประเทศ นักท่องเที่ยวสามารถเดินตามไกด์นำชมเข้าไปในแปลงปลูกอ้ายยวี่ที่เรียงรายอย่างสวยงาม พร้อมฟังความรู้เกี่ยวกับอ้ายยวี่ไปด้วย หลังจากชมแปลงกลางแจ้งเสร็จแล้ว ก็เข้าสู่กิจกรรมในร่ม เริ่มด้วยการรับประทานวุ้นอ้ายยวี่นุ่มหนึบสักแก้ว ตามด้วยการเรียนรู้ขั้นตอนตั้งแต่การเก็บผล การตากแห้ง ไปจนกลายเป็นเมล็ดอ้ายยวี่ จากนั้นทุกคนจะได้รับอุปกรณ์คนละชุดเพื่อได้ลอง “ขยำวุ้นอ้ายยวี่” ด้วยตัวเอง เมล็ดอ้ายยวี่ที่อยู่ในถุงเมื่อถูกขยำในน้ำอย่างต่อเนื่อง จะเริ่มปล่อยสารเจลลาตินเหนียว ๆ ออกมา ทำให้รู้สึกอัศจรรย์ใจและผ่อนคลายอย่างไม่น่าเชื่อ
ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว
หมายเลขโทรศัพท์
+886-3 923 1327