เมื่อเจ้าของฟาร์ม ฉาวชางเจิ้ง ได้หวนกลับมายังบ้านเกิดของเขาในปีพ.ศ. 2544 เพื่อลงทุนลงแรงกับฟาร์มเพื่อการพักผ่อนแห่งนี้ ถึงแม้ขาจะเริ่มต้นช้ากว่าคนอื่น แต่ก็สังเกตเห็นว่าคนอื่น ๆ…
คำแนะนำสถานที่
เมื่อเจ้าของฟาร์ม ฉาวชางเจิ้ง ได้หวนกลับมายังบ้านเกิดของเขาในปีพ.ศ. 2544 เพื่อลงทุนลงแรงกับฟาร์มเพื่อการพักผ่อนแห่งนี้ ถึงแม้ขาจะเริ่มต้นช้ากว่าคนอื่น แต่ก็สังเกตเห็นว่าคนอื่น ๆ มุ่งเน้นไปที่การดูดอกไม้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจทำสิ่งตรงข้ามและมุ่งความสนใจไปที่ผักแทน ทำให้เกิดธีมสวนและร้านอาหารที่แปลกไม่เหมือนใคร
สวนผักของสวน “ไลฟ์ ดิสคัฟเวอร์ การ์เด้น” มีขนาดค่อนข้างใหญ่ รวมไปถึงบริเวณทะเลสาบจูจื่อหู ซี่งมีแปลงผักขนาด 6ไร่ตั้งอยู่ด้วย ผักที่นี่ปลูกโดยไม่ใช้ยาฆ่าแมลงหรือปุ๋ยเคมีใดๆ ทั้งยังไม่ส่งจำหน่ายให้คนภายนอกเพียงปลูกไว้สำหรับใช้ในร้านอาหารของตัวเองเท่านั้น นอกจากนี้พวกเขายังขายน้ำบวบหอมบริสุทธิ์ 100%ที่ผลิตเอง เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจากธรรมชาติที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเหล่าหญิงสาวที่รักความสวยงาม
ในฟาร์มแห่งนี้ใช้วิธีการปลูกพืชหมุนเวียน โดยปลูกพืชผลฤดูกาลต่าง ๆ ในปริมาณที่ใกล้เคียงกัน เริ่มตั้งแต่ในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปีถึงมีนาคมและเมษายนของปีถัดไปจะปลูกผักกาดเขียว หัวไชเท้า กะหล่ำปลี คื่นฉ่ายภูเขา และตั้งโอ๋ภูเขา ส่วนในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนฟาร์มนี้จะเต็มไปด้วยหน่อไม้ฝรั่ง ในเดือนกรกฏาคมถึงสิงหาคม จะมีแอปเปิ้ล บวบหอม อาชิตาบะหรือพืชใบตระกูลแครอทมีถิ่นกำเนิดจากญี่ปุ่น และพริกป่า ช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวจะมีมันภูเขาและมันเทศเป็นหลัก ในขณะที่มันเทศกับผักโขมโอกินาว่านั้นปลูกได้ตลอดทั้งปี
เพื่อให้คนเมืองได้มีโอกาสใกล้ชิดกับธรรมชาติของการปลูกผักมากขึ้น ฉาวชางเจิ้งได้เปิดกิจกรรมประสบการณ์สวนผักโดยพานักท่องเที่ยวลงพื้นที่ตั้งแต่เก็บผักด้วยตนเอง คัดเลือกผัก จนถึงขั้นตอนการทำอาหารให้กลายเป็นจานเด็ด เมื่อได้ลองทำก็จะเข้าใจว่า “ตู้เย็นที่ดีที่สุด คือ ฟาร์มของเรานี่เอง” ผักที่ปลูกในทุ่งนาขั้นบันไดเก่า ๆ ทำจากหินที่มีการระบายน้ำดี แม้จะไม่ใช่ฤดูกาลเก็บเกี่ยว นักท่องเที่ยวก็สามารถเยี่ยมชมทุ่งนาขั้นบันไดและชื่นชมภูมิปัญญาของบรรพบุรุษได้
จุดเด่นทางการท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม
ผัก
“ไลฟ์ ดิสคัฟเวอร์ การ์เด้น” ไม่ได้ให้บริการเก็บดอกไม้แก่สาธารณชนเท่านั้น แต่เน้นรูปแบบการจัดการแบบผสมผสาน นอกจากจะได้เพลิดเพลินกับทุ่งดอกไม้และสวนผักแล้ว จุดเด่นที่สำคัญที่สุดคือ การได้รับประทานมื้ออาหารที่ผ่านการคัดสรรวัตถุดิบที่สดใหม่นำมาจากดินที่อยู่ใกล้ ๆ นี่เป็นจุดขายสำคัญ ถึงแม้ว่าผักที่ปลูกเองจะไม่เพียงพอ แต่ก็มีการนำผักมาจากฟาร์มอื่นในบริเวณใกล้เคียง หรือที่เรียกว่า “การเดินทางของอาหารที่สั้นที่สุด” เนื่องจากอุณหภูมิที่แตกต่างกันมากของกลางวันและกลางคืนในบริเวณทะเลสาบจูจื่อ จึงทำให้ได้ผักที่กรอบอร่อย รสชาติหวานธรรมชาติ แม้แต่ผักกาดเขียวก็ไม่มีความขมเลย
ร้านอาหารส่วนใหญ่เน้นที่อาหารไต้หวันและการรังสรรอาหารอย่างสร้างสรรค์เป็นหลัก อีกทั้งให้บริการอาหารที่แตกต่างกันไปตามฤดูกาล อาหารไม่มีการปรุงแต่งเพิ่มเติมใดๆ แถมยังใช้น้ำมันน้อย และไม่ใส่ผงชูรส ฉาวชางเจิ้ง หวังว่านักท่องเที่ยวจะได้ดู กิน และลงมือทำอาหารเมนูผักๆเองได้ เขาได้เรียนรู้เคล็ดลับการทำอาหารจีน การอบขนม บาร์เทนเดอร์หรือการผสมเครื่องดื่มค็อกเทล และอื่นๆ โดยมีใบประกอบวิชาชีพอย่างน้อย 5 ใบเป็นเครื่องการันตี