เกษตร หนานเปิ้นกั่ง
สมาคมพัฒนาพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยวเชิงเกษตร หนานเปิ้นกั่ง ตั้งอยู่ที่เมืองซินกั่ง มณฑลเจียอี้ ห้อมล้อมไปด้วยหมู่บ้าน 3 แห่ง ซึ่งแต่ละแห่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หมู่บ้านป่านโถว ได้รับรางวัล…
คำแนะนำสถานที่
สมาคมพัฒนาพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยวเชิงเกษตร หนานเปิ้นกั่ง ตั้งอยู่ที่เมืองซินกั่ง มณฑลเจียอี้ ห้อมล้อมไปด้วยหมู่บ้าน 3 แห่ง ซึ่งแต่ละแห่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หมู่บ้านป่านโถว ได้รับรางวัล “ฟาร์มยอดเยี่ยมของประเทศ” กับน้ำผลไม้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ หมู่บ้านหนานกั่ง เดิมชื่อ “เปิ้นกั่ง” ซึ่งเป็นหนึ่งในท่าเรือที่เก่าแก่ที่สุดของไต้หวัน เสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ก็ถูกรวบรวมไว้ที่นี่ และสุดท้ายคือหมู่บ้านก้งเหอซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องดอกเบลล์หรือดอกระฆัง แคนตาลูป มะเขือเทศสีดา และผักโขม
สมาคมพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรหนานเปิ้นกั่ง ได้ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2559 โดยมีหมู่บ้านศิลปะเป็นไฮไลท์ของที่นี่ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การทำฟาร์มรูปแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้จุดประกายกระแสความนิยมท่องเที่ยวฟาร์มเกษตรขึ้นมา ผู้คนให้ความสนใจไม่ว่าจะเป็น หิ่งห้อย อาหารสตรีทฟู้ดฝีมืออาม่า การเก็บเกี่ยวธัญพืช ศิลปินแห่งท้องทุ่ง เทศกาลวัฒนธรรมหนิวซูหรือเทศกาลวัว อันน่าตื่นตาตื่นใจ พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นติ่งไฉ่หยวน สวนสร้างสรรค์งานตัดแปะป่านเถาเหยาเจียวจื๋อ (Pantao Kiln Jiaozhi Scissoring and Sticking Craft Park) ร้านเครื่องหอมต้าฉิง งานศิลปะบนผนังด้านนอกของเขื่อน สะพานฟู่ซิงเถี่ยเฉียว และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่มาเติมเต็มสีสันสร้างมนต์เสน่ห์ให้กับการท่องเที่ยวแบบชนบทได้มากขึ้นอีกระดับ
ที่นี่มีพืชผลหลักๆหลายอย่าง ได้แก่ ข้าว มันเทศ มันฝรั่ง แคนตาลูป มะเขือเทศ กล้วยและผักกินหัว ผักกินใบ ดอกบลูเบลล์ เป็นต้น อีกทั้งยังมีการแตกแขนงเป็นพื้นที่ใหม่สำหรับถั่วลิสง งา ถั่วดำ และธัญพืชอื่นๆ โดยได้รับการสนับสนุนเงินช่วยเหลือตามนโยบายการเกษตรปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปลำดับสองที่กำลังได้รับความนิยมด้วย เช่น ผงงา น้ำมันงา เค้กถั่วลิสง เค้กงา และก๋วยเตี๋ยว 5 ธัญพืช ซึ่งล้วนเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับของฝากให้กับเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวด้วย
จุดเด่นทางการท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม
ธัญพืชต่างๆ
ยิ่งไปกว่านั้นยังมีกิจกรรมเปิดประสบการณ์หลากหลายให้กับผู้ที่สนใจ โดยเน้นไปที่หมู่บ้านชนบท ศิลปะและศาสนา เฉินจงเจิ้ง ปรมาจารย์ด้านเครื่องปั้นดินเผาแบบอาณาจักรเจียวจื่อ ได้ก่อตั้ง ป่านเถาเหยา(Pan Pottery Kiln) ขึ้นในปีพ.ศ. 2548 โดยผสมผสานการจัดสวนและศิลปะภายในวัดเข้าด้วยกัน ซึ่งที่นี่เราจะพบเห็นงานศิลปะอันสร้างสรรค์ที่ผสมผสานระหว่างงานฝีมือแบบดั้งเดิมและขนบธรรมเนียมทางการเกษตรในทุกตารางเมตร สถานที่นี้ ไม่ใช่เพียงพิพิธภัณฑ์แสดงศิลปะและเพื่อการเรียนรู้เท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวเชิงสันทนาการอีกด้วย สุนทรียศาสตร์แบบชนบทถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบใหม่ผ่านการสั่งสมภูมิปัญญาทางการเกษตรอันล้ำลึกของบรรพบุรุษ นอกเหนือจากงานเครื่องปั้นดินเผาที่มีสีสันงดงามแล้ว ยังมีงานศิลปะภาพตัดปะจากโมเสคซึ่งเป็นกิจกรรมยอดนิยมให้บรรดาผู้ใหญ่และเด็ก ๆได้สนุกสนานเพลิดเพลินด้วย รวมไปถึงเปิดประสบการณ์การบีบงาเพื่อให้ได้น้ำมันงาด้วยตนเอง และเคลิบเคลิ้มไปกับความหอมของอาหารจากครัวบ้านๆในวิถีแบบชนบท
สำหรับผู้ที่รักการปั่นจักรยาน สามารถขี่จักรยานไปตามถนนชนบท เยี่ยมชมแหล่งน้ำของระบบนิเวศที่นี่ ชมพุ่มไม้หอม บาสเซีย สกอปาเรีย สวมชุดนกกระเรียนขาว หรือกิจกรรมยอดนิยมของนักท่องเที่ยวอย่างการทำเค้กแฮนด์เมค นอกจากนี้ยังมีการเก็บเมล็ดงา การลงแปลงเก็บถั่วลิสงเอง การเก็บผักโขมน้ำ และประสบการณ์ทำฟาร์มอื่นๆ หรือจะเข้าครัวลงมือทำพิซซ่าเตาเผา แบบDIY เอง ก็เป็นประสบการณ์ที่น่าภาคภูมิใจเช่นกัน