พร้อมออกแคมเปญ หลินเน่ยทาโร่
เมืองหลินเน่ย มณฑลหยุนหลิน ซึ่งรายล้อมไปด้วยภูเขาและแม่น้ำลำธารพร้อมด้วยทัศนียภาพอันงดงาม หมู่บ้านอูถู ซึ่งตั้งอยู่ ณ แหล่งต้นน้ำจั๋วฉุ่ย…
คำแนะนำสถานที่
เมืองหลินเน่ย มณฑลหยุนหลิน ซึ่งรายล้อมไปด้วยภูเขาและแม่น้ำลำธารพร้อมด้วยทัศนียภาพอันงดงาม หมู่บ้านอูถู ซึ่งตั้งอยู่ ณ แหล่งต้นน้ำจั๋วฉุ่ย มีดินสีดำทำให้เกิดแหล่งเพาะปลูกอันอุดมสมบูรณ์และให้ผลผลิตทางการเกษตรอันเป็นที่รู้จักกันดีนั่นคือเผือกหัวใจหรือซินวี่ ทั้งมีชื่อเสียงและมีพื้นที่เพาะปลูกเผือกใหญ่เป็นอันดับสี่ของไต้หวัน
หลินเจี้ยน อดีตนักศึกษาปริญญาโทด้านสันทนาการ ที่ภายหลังลาออกมาบ้านเกิดเพื่อดูแลพ่อแม่ที่แก่ชราเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เขาเริ่มต้นทำทองม้วนเผือกกรอบ ในตอนนั้นขายได้ถึง 20,000 ชิ้นต่อเดือน ไม่เพียงแต่เป็นจุดเริ่มต้นของการทำเผือกแฮนด์เมคอย่างจริงจัง แต่ยังเริ่มแคมเปญทาโร่ เพื่อผลักดันให้เมืองหลินเน่ยมีศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยวมากเป็นระดับแถวหน้าของประเทศด้วย
“ศูนย์การเรียนรู้เรื่องเผือกหลินเน่ย” ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 6ไร่กว่า เดิมทีเป็นบ้านของหลินเจี้ยนอัน แต่ตอนนี้ได้ถูกเนรมิตให้เป็นศูนย์การศึกษาด้านอาหารและเกษตรของทาโร่ ที่นี่ล้อมรอบไปด้วยอาคารพื้นที่สาธารณะจำนวนมาก ได้แก่ ที่จอดรถ เส้นทางเดินป่า พื้นที่ผลิตเผือก ลานเรียนรู้ต้นน้ำจั๋วฉุ่ย และลานกิจกรรมต่างๆ “ชาวนาปลูกเผือก ชาวบ้านขอเผือก ผู้มาเยือนเรียนรู้เรื่องเผือก” หลินเจี้ยนอัน กล่าวว่า เราหวังว่าจะเป็นศูนย์การศึกษาเรื่องเผือกที่พร้อมให้ความรู้กับทุกคนและเป็นมืออาชีพมากที่สุดในประเทศ
เผือกจะใช้เวลาในการเจริญเติบโตอยู่ที่ประมาณ 9 เดือน ครึ่งหนึ่งของพื้นที่ปลูกจะถูกแบ่งออกเป็น 9 ส่วนโดยปลูกเผือกที่มีระยะการเจริญเติบโตต่างกันไป นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสประสบการณ์ความสนุกในการขุดเพื่อเก็บเผือกได้ทันทีที่มาถึง ทั้งการขุดในฤดูใบไม้ร่วงและการไถพรวนในฤดูใบไม้ผลิก็สามารถทำได้ในหนึ่งวัน นอกจากนี้ยังสามารถลงมือทำบัวลอยเผือกเอง กินโดรายากิเผือก แล้วปิดท้ายด้วยน้ำแข็งใสราดเผือกบดสักชามคงจะฟินไม่น้อย
จุดเด่นทางการท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม
ผัก
“กระทรวงเผือก” ดำรงอยู่ได้ด้วยชื่อเสียงของการสอนชาวนาปลูกเผือก ช่วยขายเผือกให้ชาวนา และถ่ายทอดเป็นอาหารออกสู่สาธารณะ เมนูอย่าง “เผือกกรอบ” ซึ่งผ่านการทอดด้วยไฟอ่อนๆ ทั้งหอมกรอบอร่อย มีให้เลือกถึงสามรสชาติ อีกหนึ่งเมนูขึ้นชื่อก็คือ “แยมโรลเผือก” ซึ่งเกิดจากการผสมผสานวัตถุดิบพื้นเมืองสองชนิด โดยการนำข้าวจุ๋ยฉุ่ยมาบดเป็นผงทำเนื้อเค้ก แล้วม้วนสอดไส้ด้วยเผือก นับเป็นของขวัญที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดลิ้มลองเลย
นอกจากการขุดเผือกแล้ว ยังมีกิจกรรมการทำบัวลอยเผือก และเผือกบด ซึ่งเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย รวมไปถึง “เทศกาลจับน้ำ” หรือเทศกาลนำตะกร้าที่สานด้วยไม้ไผ่ มีลักษณะคล้ายโคมไฟที่มีหัวกว้างหางแคบ นำมากั้นทางน้ำเพื่อเบี่ยงเส้นทางน้ำให้ไหลไปทางอื่น รวมถึงมีการเปิดตัวตะกร้าไม้ไผ่อันสร้างสรรค์โดยวิธีการทอไผ่แบบ”หลงไจ่เจีย” ซึ่งถือเป็นการสืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่นให้คงอยู่ผ่านกิจกรรมอันสนุกสนานอีกด้วย
หากยังไม่จุใจ คุณสามารถปั่นจักรยานไปตามชนบทไม่ไกลนัก เพื่อดื่มด่ำกับวัฒนธรรมของชาวบ้านอูถูได้อย่างเต็มที่หรือจะขับรถไปที่ ไร่กาแฟชนบท เถียนหยวนมี่ชิง (The Secret Countryside Casual Coffee Farm) เพื่อดื่มกาแฟสักแก้ว แล้วแวะฟาร์มของคุณฝู (Fu’s Farm) เพื่อเลือกซื้อผลไม้ จากนั้นลิ้มรสผักสดหวานกรอบที่ฟาร์ม “ไอโวคาโด้” (iVocado) ช่างเป็นการเยี่ยมชมทั่วเขตท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่สำคัญทั้งสี่แห่งในหมู่บ้านอูถูอย่างเต็มอิ่มจริงๆ