“ฟาร์มหนงอี้จั้น” (Nong Yi Jhan Farm) ตั้งอยู่ในพื้นที่เกษตรเชิงนันทนาการไป่สือหู ใช้เวลาเดินเพียง
5 นาทีจากสะพานแขวนไป่สือหู และอยู่ถัดจากพื้นที่ชุ่มน้ำโฮ่วหู (สระน้ำถงซิน)⋯
บทนำ
“ฟาร์มหนงอี้จั้น” (Nong Yi Jhan Farm) ตั้งอยู่ในพื้นที่เกษตรเชิงนันทนาการไป่สือหู ใช้เวลาเดินเพียง
5 นาทีจากสะพานแขวนไป่สือหู และอยู่ถัดจากพื้นที่ชุ่มน้ำโฮ่วหู (สระน้ำถงซิน)
นอกจากจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขาป่าไม้และทุ่งนาแล้ว
ยังสามารถพบเห็นระบบนิเวศตามธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์อยู่มาก เจ้าของฟาร์ม หลินชุ่ยเอ๋อ
ทั้งครอบครัวได้อาศัยอยู่ที่นี่มายาวนานถึง 8 ชั่วอายุคน เป็นเวลาเกือบ 300 ปี
ด้วยชื่นชอบการใช้ชีวิตบนภูเขา จึงได้ทำการปลูกผักออแกนนิกมากกว่า 100 ชนิด
และเปิดเป็นการเกษตรเชิงการท่องเที่ยว กิจกรรมสัมผัสประสบการณ์การทำการเกษตรและอาหาร
บริการด้านอาหารและอื่นๆ มุ่งมั่นที่จะแบ่งปันวิถีชีวิตที่สวยงามของเกษตรสวนผักบนภูเขา
เมื่อมาเที่ยวฟาร์มหนงอี้จั้น นอกจากจะได้เลือกซื้อผักผลไม้ตามฤดูกาลที่ปลูกในฟาร์มแล้ว
ยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรมสัมผัสประสบการณ์การทำการเกษตร ตั้งแต่การเตรียมที่ดิน
กำจัดวัชพืช ปลูกผักและผลไม้ จัดเตรียมดินและปุ๋ย ดูแลจัดการศัตรูพืช รวมถึงการการเก็บผลผลิต
นอกจากนี้ทางฟาร์มยังได้ทำอาหารท้องถิ่นจากผลผลิตภายในฟาร์ม เช่น ปอเปี้ยผัก
ขนมหวั่นกุ้ย บัวลอยสตรอเบอร์รี่ เป็นต้น เนื่องด้วยทางฟาร์มใช้ของสด รสชาติอร่อยไม่เหมือนใคร ทำ
ให้บ่อยครั้งที่จะไม่สามารถตอบรับความต้องการได้เพียงพอ สำหรับคนในเมืองไทเปที่อยู่กับความเร่งรีบและวุ่นวาย ทำให้ฟาร์มหนงอี้จั้นเป็นสถานที่ที่ทำให้ได้กลับมาใกล้ชิดธรรมชาติ เดินเล่นไปในสวนผัก
เหมาะสำหรับพักผ่อนในวันหยุด ได้สัมผัสถึงความรู้สึกที่เรียกว่า “จากฟาร์มสู่โต๊ะอาหาร”
จุดเด่นทางการท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม
ผึ้ง
แม้ว่าพื้นที่ของไต้หวันจะไม่มากมายนัก แต่ไต้หวันกลับมีภูมิประเทศที่หลากหลาย ได้แก่ เนินเขา ภูเขา ที่ราบ ลำธารหลายสายที่ไหลมาบรรจบ ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรของไต้หวันมีมากมายหลายชนิดหลากสายพันธุ์
การเกษตรของไต้หวันตรงจะเน้นการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อาจจะปลูกแบบเอ้าดอร์ อาจจะปลูกในเรือนกระจก มีทั้งฟักทอง ข้าวโพด ขมิ้น ต้นหอม มันหวาน หัวไชเท้า ปลูกพืชผสมผสานให้เต็มทั้งผืนดิน ซึ่งจะแตกต่างจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่มีพื้นที่เน้นการปลูกพืชแบบเชิงเดี่ยว ผู้มาเยี่ยมชมจะได้สัมผัสกับความผูกพันของเกษตรกรกับผืนดิน ที่รอคอยต้อนรับผู้มาเยือน พร้อมทั้งทดลองทำการรเกษตร กำจัดศัตรูพืช รวมถึงสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายของเกษตรกร
ผึ้ง
นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการนำเที่ยวของฟาร์มเพื่อเก็บผักด้วยมือ เรียนรู้วิธีการทำบัวลอยและแยม เรียนรู้เกี่ยวกับการทำเกษตรอินทรีย์ และการถนอมอาหาร นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถจองทัวร์แบบมีไกด์อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับระบบนิเวศวิทยาของผึ้ง วิธีการลิ้มรสน้ำผึ้ง การกิน “หมากฝรั่งรังผึ้ง” จากธรรมชาติ รวมทั้งยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรมอื่นๆได้ด้วย
“ขนมหวั่นกั่ว” ที่มีสีสันสดใสเป็นอีกหนึ่งสินค้าขายดีของฟาร์มแห่งนี้ มันทำจากแป้งข้าวเจ้า ผักออร์แกนิค ฟักทอง เผือก เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เก๋ากี้ ถั่วลิสง หัวไชเท้าแห้ง และผักตามฤดูกาล เมนูนี้มี “ซอสโฮเน่มิโซะ” ที่ตกแต่งอย่างสร้างสรรค์ จึงสามารถคว้าอันดับ 2 ในการแข่งขัน “สุดยอดขนมหวั่นกั่ว” ภาคเหนือของไต้หวันมาครองได้อย่างสบาย เมนูแป้งห่อสตรอเบอร์รี่และผัก ก็เป็นที่นิยมเช่นกัน โดยการห่อด้วยแป้งโฮลวีตและไส้ที่ประกอบด้วยมันเทศ ผักกาดหอมและผลผลิตตามฤดูกาลอื่น ๆ รวมทั้งหน่อไม้ฝรั่งและสตรอเบอร์รี่สด จึงทำให้เมนูนี้ไม่เพียงแต่ออกมาหน้าตาดีแต่ยังมีรสชาติอร่อยอีกด้วย
Previous
Next