ฟาร์มเต่าทองน้อยออร์แกนิก ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2536 ตั้งอยู่ในเขตเมืองตงซื่อ ซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขาและแม่น้ำ มีสภาพแวดล้อมที่พิเศษ ตามทางลาดของไหล่เขามีการสร้างเรือนเพาะปลูกแบบกระจกกึ่งเปิดหลายหลัง ซึ่งสามารถปลูกผักตามฤดูกาลได้ประมาณปีละสี่สิบชนิดและให้ผลผลิตได้ถึง 10 ชนิดในเวลาเดียวกัน ฟาร์มเต่าทองน้อยออร์แกนิกมีการปลูกผักแบบหมุนเวียนอย่างมืออาชีพเพื่อให้ดินได้มีช่วงเวลาพัก ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ได้ผ่านมาตรฐานรับรองเกษตรอินทรีย์จากมูลนิธิการศึกษาด้านสุนทรียศาสตร์นานาชาติ หรือ International Aesthetic Education Foundation (MOA)
คำแนะนำสถานที่
ฟาร์มเต่าทองน้อยออร์แกนิกไม่เปิดทำการในวันธรรมดา จึงจำเป็นต้องนัดหมายล่วงหน้าเพื่อไม่พลาดการเยี่ยมชมฟาร์ม
สิ่งที่พิเศษสุดก็คือทางฟาร์มเปิดแคมป์ฝึกประสบการณ์การทำฟาร์มแบบครอบครัวโดยใช้บทสนทนาเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ด้วยความร่วมมือกับเกษตรกรรายย่อยในสวนส้มใกล้เคียง ผู้เยี่ยมชมจึงสามารถสัมผัสความสนุกในการเก็บผลส้มด้วยตนเองนอกเหนือไปจากผักที่ปลูกเองในฟาร์มแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถเยี่ยมชมเล้าไก่และเลือกวิธีการสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงเกษตรเป็นภาษาอังกฤษซึ่งเป็นที่นิยมมากในหมู่ผู้ปกครองและเด็กจากโรงเรียนอนุบาลสองภาษา นอกจากนี้ยังมีห้องเรียนอเนกประสงค์ ซึ่งผู้เข้าชมสามารถนำผักที่เพิ่งเก็บสดใหม่ไปทำอาหารรับประทานได้ทันที และเพลิดเพลินไปขั้นตอนต่างๆตั้งแต่การปลูกไปจนถึงโต๊ะอาหาร
อูจูซุ่น เกษตรกรรุ่นที่สองกล่าวว่าฟาร์มเต่าทองน้อยแห่งนี้มีพื้นที่เพียง8ไร่เศษ สามารถปลูกผักออร์แกนิกแบบหมุนเวียน ได้ผลผลิตที่ไม่มากไม่น้อย การจัดผักใส่กล่องตามที่ลูกค้าสั่งก็ช่วยแก้ปัญหาได้ ต่อมาได้มีการจำหน่ายตามที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้านหวี่เหมาไถจง (Taichung Yumao House), โรงเรียนอนุบาลเจียเหมยตี้ (Jiameidi Kindergarten), โรงเรียนมัธยมฉวนเหริน (Whole Person Middle School) และสถานที่อื่นๆ ทั่วเมืองไถจง รวมถึงมีบริการจัดส่งตามบ้านอีกด้วย ประสบการณ์การเยี่ยมชมฟาร์มช่วยให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสเข้าถึงพื้นที่การผลิตอย่างใกล้ชิดและเข้าใจถึงปณิธานของฟาร์มเต่าทองน้อยออร์แกนิกแห่งนี้ เพื่อความมั่นใจในการสั่งซื้อสินค้าและความอุ่นใจในการนำกลับไปทานที่บ้าน
จุดเด่นทางการท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม
ผัก
จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ด้วยวิธีการที่แตกต่างจากผู้ปลูกผักโดยทั่วไป ไม่ว่าจะมาตรฐานรับรองเกษตรอินทรีย์ บริการส่งถึงมือด้วยกล่องผัก ไปจนถึงประสบการณ์ทัวร์ฟาร์มทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ พวกเขาต่างก็หวังว่าจะเติบโตอย่างมืออาชีพภายใต้รากฐานแบบดั้งเดิม ช่วยยกระดับการท่องเที่ยวเชิงเกษตรให้กับชุมชนแห่งนี้