“รถไฟจะไปไหน? ไปดูวัวกันเถอะ!” โรงงานน้ำตาลไถหนาน ซินหยิง เส้นทางปาเวิง เป็นเส้นทางรถไฟขนาดเล็กของไต้หวันชูก้าร์แรลเวย์ ที่ยาวที่สุด ระยะทางประมาณ…
คำแนะนำสถานที่
“รถไฟจะไปไหน? ไปดูวัวกันเถอะ!” โรงงานน้ำตาลไถหนาน ซินหยิง เส้นทางปาเวิง เป็นเส้นทางรถไฟขนาดเล็กของไต้หวันชูก้าร์แรลเวย์ ที่ยาวที่สุด ระยะทางประมาณ 5.6 กม. ตลอดเส้นทางใช้เวลาประมาณ 40 นาที ปัจจุบันมีเส้นทางรถไฟไต้หวันชูก้าร์แรลเวย์ ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ซึ่งหาได้ยากเมื่อทางรถไฟส่วนใหญ่ถูกรื้อถอน แต่เส้นทางนี้เริ่มต้นจากซินหยิงผ่านจงซิ่ง และสิ้นสุดที่สถานีปาเหล่าเย้ เขตโคนมในหลิวหยิง ซึ่งเป็นที่ตั้งของ “บ้านวัว”
เจ้าของฟาร์มชื่อไช่หย่งชิง วัย 62 ปี เกิดที่นี่ ในช่วงปี 2523 และ 2533 เขตโคนมปาเวิง หลิวหยิงอยู่ในช่วงรุ่งโรจน์ ไช่หย่งชิง หัวเราะและพูดว่า “ผู้คนจะพบวัวทุกที่บนท้องถนน” บ้านวัวแห่งนี้ เลี้ยงวัวดัตช์ขาวดำเป็นหลัก และยังเป็นแหล่งน้ำนมดิบอีกแหล่งหนึ่ง ฟาร์มยังเลี้ยงโคอื่นๆ อีกจำนวนเล็กน้อย เช่น วัวฮวนซาน วัวสีน้ำตาลสวิส วัวเกิงไซ เออร์เชียน และโคชอร์ตฮอร์นสำหรับดื่มนม อารมณ์ที่อ่อนโยนเป็นคุณลักษณะที่พวกมันแบ่งปัน พวกมันไม่ขี้อายเนื่องจากการเปิดรับผู้คนอย่างต่อเนื่องและจะตอบสนองต่อการเรียกร้องของแขกด้วยแววตาที่อ่อนโยนและแสนเชื่อง เพื่อนบ้านที่นี่เป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมเกือบทั้งหมด ดังนั้นคุณจึงรู้สึกถึงความมหัศจรรย์ว่าถูกห้อมล้อมไปด้วยวัวควายตลอดเวลา
จุดเด่นทางการท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม
สัตว์เลี้ยงในฟาร์ม
นมของโคนมที่นี่ได้รับการฆ่าเชื้อที่อุณหภูมิต่ำระดับ 65 ถึง 70 องศาเซลเซียส ซึ่งไม่ส่งผลต่อแร่ธาตุและวิตามินและคงรสชาติดั้งเดิมไว้ มีพุดดิ้งทำด้วยนมสดและไข่โดยไม่ต้องหยดน้ำ นมสดเสิร์ฟพร้อมขนมปังที่ทำจากแป้งแบบเก่า ซาลาเปานึ่งและซาลาเปาที่มีรสชาติเฉพาะตัว รวมทั้งชีส ไข่ม้วน ลูกอมนม และอื่นๆ ฟาร์มปศุสัตว์แห่งนี้ยังมีแก้วรูปวัวที่ได้รับความนิยมอย่างสูงมากมาย
วัวน่ารัก แกะ ม้า กระต่าย หมู อัลปาก้า ฯลฯ ในพื้นที่ฟาร์มเป็นที่นิยมอย่างมาก เด็ก ๆ สามารถให้อาหารสัตว์ด้วยนม ทุ่งหญ้า แครอท และอื่น ๆ รวมทั้งสัตว์ปีกและนกให้นักท่องเที่ยวได้ชมด้วย ไม่เพียงเท่านั้นเด็ก ๆ ในพื้นที่สนามเด็กเล่นยังสามารถเล่นสนุกกับของเล่นและรถสามล้อทั้งแบบดั้งเดิมและสมัยใหม่ซึ่งจัดเตรียมไว้ให้ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เล่นน้ำในฤดูร้อน มีรถพ่วงเก่าหลายคันในสวนสาธารณะสำหรับรับประทานอาหาร ยามเหนื่อยอยากพักนักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับนม หม้อไฟ เบนโตะที่ชวนให้นึกถึงอดีต รวมถึงอาหารอื่นๆได้ ส่วนมูลโคถูกใช้ทำปุ๋ยอินทรีย์สำหรับต้นไม้ผลไม้ในฟาร์ม ซึ่งในอนาคตอันใกล้จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้สัมผัสประสบการณ์การเก็บผลไม้
Previous
Next