หากขับรถ 20 นาทีจากสถานีหนานกัง ก็จะเข้าสู่เขตพื้นที่ขนาดใหญ่ของภูเขาจีหลงและหม่าหลิงซาน (Keelung&Maling mountain) ซึ่งในสมัยราชวงศ์ชิงกลุ่มชาวฉวนโจว(QuanZhou)…
บทนำ
หากขับรถ 20 นาทีจากสถานีหนานกัง ก็จะเข้าสู่เขตพื้นที่ขนาดใหญ่ของภูเขาจีหลงและหม่าหลิงซาน (Keelung&Maling mountain) ซึ่งในสมัยราชวงศ์ชิงกลุ่มชาวฉวนโจว(QuanZhou) ได้อพยพมาตั้งรกรากและพัฒนาพื้นที่แห่งนี้ โดยยังชีพด้วยการปลูกไผ่ ขุดหน่อไม้ ปลูกสมุนไพร เลี้ยงผึ้ง และดำเนินชีวิตอย่างขยันขันแข็ง เรียบง่ายจนถึงปัจจุบัน ฟาร์มจินหมิงชางตั้งอยู่บริเวณชายขอบของภูเขา จางชิงป๋อ เจ้าของฟาร์มผู้มีอายุกว่า70ปี เล่าให้ฟังว่าตอนเด็กๆเขาคลุกคลีกับที่นี่ตลอด โดยติดตามพ่อและคุณปู่ไปขุดหน่อไม้ ปลูกไผ่ รวมถึงเลี้ยงผึ้งต่างๆด้วย จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมผึ้งจึงกลายเป็นพันธมิตรของฟาร์มแห่งนี้
ปัจจุบันเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งกว่า 90% ในไต้หวันเลี้ยงผึ้งอิตาลีที่มีต้นกำเนิดจากยุโรป ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นผึ้งประจำถิ่นของไต้หวันและยังปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ดีอีกด้วย ผึ้งงาน ผึ้งทหาร และผึ้งราชินีต่างก็ช่วยกันทำงานอย่างขยันขันแข็ง และยังมีส่วนร่วมในการผลิตนมผึ้ง ละอองเกสร และสิ่งอื่นๆที่นอกเหนือไปจากน้ำผึ้งอย่างไรก็ตามสวนผึ้งแห่งนี้เลี้ยงผึ้งพื้นเมืองของไต้หวันเป็นหลัก ถึงจะมีขนาดเล็กและมีถุงน้ำหวานที่เล็กกว่าผึ้งอิตาลี แต่พวกมันก็ขยันมากกว่าและยังบินได้ไกลในรัศมี 5-6 กิโลเมตร เมื่อออกจากรังจะบินได้นานขึ้นและบ่อยขึ้น ส่วนน้ำหวานที่เก็บรวบรวมได้จะถูกลำเลียงสู่รังมากกว่า 30 ครั้ง เมื่อความเข้มข้นพอเหมาะและแห้งได้ที่แล้วจึงปิดผนึกอย่างดี น้ำผึ้งเหล่านี้เมื่อผสมกับนมผึ้งและเกสรดอกไม้แล้ว จะทำให้มีกลิ่นหอมและมีเอ็นไซม์มากขึ้น
จุดเด่นทางการท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม
ผึ้ง
‘อุโมงค์ผึ้ง’ เป็นสิ่งที่ฟาร์มออกแบบเป็นพิเศษ ซึ่งประกอบด้วยคานเหล็กและพืชสีเขียวนานาชนิด เมื่อเดินผ่านเข้าไปก็จะได้ทำความรู้จักกับเหล่าผึ้ง ฟาร์มสันทนาการจีหลงหม่าหลิงและฟาร์มจินหมิงชางแห่งนี้ผ่านป้ายอธิบายต่างๆภายในอุโมงค์ ส่วนที่ปลายอุโมงค์จะมีรังผึ้งเรียงเป็นแถวให้เด็กๆได้แอบสังเกตการณ์ดูวิถีชีวิตและระบบนิเวศในการเก็บน้ำหวานของเหล่าผึ้งอย่างเพลิดเพลิน
เนื่องจากผึ้งที่นี่ไม่จำเป็นต้องอพยพเหมือนผึ้งอิตาลี พวกมันสามารถลงหลักปักฐานที่สวนผึ้งแห่งนี้ได้นาน นักท่องเที่ยวจึงสามารถเห็นฝูงผึ้งบินรวบรวมละอองเกสรได้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังสามารถลิ้มรสน้ำผึ้งอันหอมหวานชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งฤดูหนาว หรือน้ำผึ้งจากหมู่ภมรหลากหลายชนิด
ปัจจุบันฟาร์มจิงหมิงชานแห่งนี้ไม่ได้มีเพียงกวางป่า ผึ้ง และสินค้าเกษตรที่เกี่ยวข้องเท่านั้น แต่ยังมีห้องเรียนเปิดประสบการณ์เรียนรู้ ซึ่งมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ทำขี้ผึ้งเอง ทั้งคอมเฟร์ยบาล์มหรือขี้ผึ้งจากหญ้างวงช้าง ลิปบาล์มขี้ผึ้งทาริมฝีปาก ตลอดจนส้มโอเหวินตัน ขมิ้น และสมุนไพรต่างๆ ซึ่งในบางฤดูกาล คุณสามารถจองคลาสเรียนการทำซอสส้มโอและซอสส้มจี๊ด รวมไปถึงกิจกรรมพิเศษอื่นๆ ได้อีกด้วย