“ฟาร์มนันทนาการหวั้งซาน” (Wangshan Leisure Farm) ก่อตั้งในปี 1984 เดิมชื่อ
“ฟาร์มผลไม้เชิงการท่องเที่ยวแคนตาลูปและฟักทองหหวั้งซาน”
ผู้ก่อตั้ง หลินวั่งซาน ผู้หวนกลับสู่กลับบ้านเกิดเพื่ออุทิศตนให้กับการเกษตร
บทนำ
“ฟาร์มนันทนาการหวั้งซาน” (Wangshan Leisure Farm) ก่อตั้งในปี 1984 เดิมชื่อ
“ฟาร์มผลไม้เชิงการท่องเที่ยวแคนตาลูปและฟักทองหหวั้งซาน”
ผู้ก่อตั้ง หลินวั่งซาน ผู้หวนกลับสู่กลับบ้านเกิดเพื่ออุทิศตนให้กับการเกษตร
ด้วยสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์และคุณภาพดินที่พิเศษของเขตจ้วงเหวย เขา
ได้ตัดสินใจปลูกฟักทองและแคนตาลูป มีการใช้ประโยชน์จากพืชที่ปลูกสร้างอุ
โมงค์ฟักทองขึ้นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว การพัฒนารูปแบบธุรกิจเป็นไปในรูปแบบปลูกเอง
ผลิตเองและทำการตลาดเอง รวมถึงประสบความสำเร็วในการผลักดันการเกษตรในท้องถิ่น ในปี 1998
ผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำแนวคิดนวัตกรรมใหม่ จนปี 2001
ได้ปรับเปลี่ยนเป็นฟาร์มนันทนาการที่ให้การบริการที่ดีขึ้น
พัฒนากำจัดปัญหาเรื่องผลิตผลตามฤดูกาลทำให้ฟาร์มสามารถมีผลผลิตผลไม้ได้ในทุกฤดูกาล
ก้าวไปสู่อุตสาหกรรมฟาร์มเพื่อการท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ
เมื่อคุณมาที่ฟาร์มนันทนาการหวั้งซาน คุณจะพบว่าที่นี่เต็ม
ไปด้วยบรรยากาศฟาร์มแบบท้องถิ่น เพื่อหลีกเลี่ยงการทำอันตรายระบบนิเวศและเพื่อปกป้องทัศนียภาพ
ไม่เพียงไม่ใช้ปูนซีเมนต์ในการก่อสร้าง แม้แต่เครื่องใช้ไม้สอย. ทางการเกษตรต่างๆ
ยังใช้แบบดั้งเดิม เดินไปกับผู้นำชมฟาร์มพร้อมบรรยายแนะนำ
นอกจากจะเข้าใจเกี่ยวกับพันธุ์ฟักทองที่หลากหลาย และการเพาะปลูกที่แตกต่าง
คุณยังสามารถไปยังในไร่ เข้าร่วมกิจกรรมการทำฟาร์ม เช่น การเลือกเก็บผลฟักทอง
การดึงเก็บฟักทอง เข้าถึงวิถีชีวิตของเกษตรกรสวนฟักทองในหนึ่งวัน
นอกจากนี้ยังมีทัวร์ระบบนิเวศการเลี้ยงผึ้งแบบพิเศษ เป็นการเปิดหูเปิดตาและ
ทำความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวความสัมพันธ์การพึ่งพาซึ่งกันและกันระหว่างผลไม้และผึ้ง
มาศึกษาสิ่งแวดล้อม การใช้ชีวิต วัฒนธรรมในชนบทและระบบนิเวศของฟักทอง
ความรู้ที่เพาะบ่มจากประสบการณ์อันยาวนาน
ให้ผู้มาเยือนเข้าสู่อ้อมกอดของธรรมชาติพร้อมเรียนรู้และเติบโตอย่างมีความสุข
นี่คือเคล็ดลับที่มีเสน่ห์ของฟาร์มนันทนาการหวั้งซาน
ลักษณะเฉพาะ
ผัก
แม้ว่าพื้นที่ของไต้หวันจะไม่มากมายนัก แต่ไต้หวันกลับมีภูมิประเทศที่หลากหลาย ได้แก่ เนินเขา ภูเขา ที่ราบ ลำธารหลายสายที่ไหลมาบรรจบ ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรของไต้หวันมีมากมายหลายชนิดหลากสายพันธุ์
การเกษตรของไต้หวันตรงจะเน้นการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อาจจะปลูกแบบเอ้าดอร์ อาจจะปลูกในเรือนกระจก มีทั้งฟักทอง ข้าวโพด ขมิ้น ต้นหอม มันหวาน หัวไชเท้า ปลูกพืชผสมผสานให้เต็มทั้งผืนดิน ซึ่งจะแตกต่างจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่มีพื้นที่เน้นการปลูกพืชแบบเชิงเดี่ยว ผู้มาเยี่ยมชมจะได้สัมผัสกับความผูกพันของเกษตรกรกับผืนดิน ที่รอคอยต้อนรับผู้มาเยือน พร้อมทั้งทดลองทำการรเกษตร กำจัดศัตรูพืช รวมถึงสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายของเกษตรกร
ผึ้ง
ผึ้งเป็นคอนเซปหลักของบริเวณงาน ผู้จัดงานจัดให้มีการนำชมระบบนิเวศของผึ้ง ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าใจถึงขั้นตอนการเลี้ยงผึ้ง การจัดเก็บน้ำผึ้ง การแปรรูปและการเก็บรักษา ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม DIY ซึ่งจะมีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ผู้เยี่ยมชมจะได้สัมผัสประสบการณ์การเก็บน้ำผึ้ง เก็บเกสร พร้อมทั้งทดลองเป็นเกษตรกรเลี้ยงผึ้ง 1 วันเต็มๆ
Previous
Next